เพราะสำหรับประเทศไทย ที่ราคาของการเดินที่ไม่แน่นอน รถเช่าจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าอย่างมาก
ไปดูพร้อมๆกัน ว่า ตลาดรถเช่าในไทย ไปถึงไหนกันแล้ว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าภายในปีนี้ ตลาดรถเช่า จะมีมูลค่าถึง 42,500 ล้านบาท เติบโต 9%จากปี 2559 โดยรถเช่าในที่นี้ไม่รวม รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัส และรถจักรยานยนต์
รถเช่า สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ 1.รถเช่าระยะสั้น ระยะเวลาน้อยกว่า 1 ปี โดยจุดประสงค์ของการใช้งานคือ การเช่าเพื่อท่องเที่ยวเป็นหลัก 2.รถเช่าระยะยาว ระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป จุดประสงค์คือ ใช้ทำงาน ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อว่า มีงานอะไรบ้าง
สัดส่วนของรถเช่าระยะสั้นอยู่ที่ 31% รถเช่าระยะราว อยู่ที่ 69%
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับเช่ารถเพื่อท่องเที่ยว 3-5วัน แต่รถที่เช่าเพื่อทำงานนั้น เช่ากันเป็นปี จึงทำให้มูลค่าของรถเช่าระยะยาวจึงสูงกว่ามาก
ความน่าสนใจของตลาดนี้ คือ เป็นตลาดมูลค่าสูง และมีปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสนับสนุน
1.ความนิยมในการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
การมีรถเวลาไปเที่ยวที่ไกลๆ นั้น เป็นอะไรที่สบายที่สุดแล้ว (ถ้าคุณทำการบ้านดีพอ) เพราะคำนวณแล้วราคาไม่แพง มีอิสระ และได้เห็นอะไรแปลกๆ มากกว่า
ปัจจุบันจึงเกิดเป็นกระแส Road Trip มากมาย ทั้งในยุโรป สหรัฐฯ หรือ ญี่ปุ่น เทรนด์นี้มีมากขึ้นก็เพราะการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ส่วนการเช่ารถในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะถ้าไปกัน 2-5 คน การเช่ารถก็คุ้ม สะดวก และสนุกมากกว่า แต่ถ้ามีคนเยอะ หรือมีผู้ใหญ่ไปหน่อย การเหมารถตู้ก็ยังได้รับความนิยม
2.การทำการตลาดไปยังที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ
ในจังหวัดท่องเที่ยวดังๆ อย่างเชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต ตัวเลือกการเดินทางมีหลากหลาย แต่ในจังหวัดที่เพิ่งเริ่มทำการท่องเที่ยวนั้น การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว อาจจะไปได้ยาก ทำให้การเช่ารถที่สนามบินเลย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว
3.บริการออนไลน์ โลจิสติกส์ การเดินทาง
รถเช่าระยะยาว หรือ รถเช่าที่ไว้ทำงานนั้น เป็นตลาดที่ใหญ่ก็เพราะ ผู้เช่าไม่ต้องแบกรับภาระของรถไว้เอง ไม่ว่าจะเป็นค่าเสื่อม ราคา และสำหรับบริษัทที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย รถเช่านั้นสะดวกสบายมากๆ
ธุรกิจเดินทาง เช่น App เรียกรถต่างๆ ที่ผู้ขับไม่ต้องมีรถเป็นของตัวเองก็ทำเงินได้ ซึ่งก็ใช้โมเดลเดียวกับการขับแท็กซี่ และสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ การเพิ่มขึ้นของช้อปปิ้งออนไลน์ หรือบริการออนไลน์ที่ต้องมีการส่งของ ก็ทำให้การเช่ารถตู้ได้รับความนิยมเช่นกัน
โอกาส และความท้าทาย
ปัจจุบัน ตลาดรถเช่า ในไทยนั้นแข่งขันกันสูงมาก มีทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์ต่างประเทศ
ซึ่งแบรนด์ต่างประเทศที่เข้ามานั้นก็ชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ง่าย เพราะมีชื่อเสียงจากต่างประเทศอยู่แล้ว พอชาวต่างชาติมาก็คุ้นเคยกับชื่อมากกว่า รวมถึงเว็บไซต์และแอปฯ ที่ต้องยอมรับว่าดีกว่าของไทย
แต่สิ่งที่เป็นข้อได้เปรียบของแบรนด์ไทยก็คือ ค่าบริการ (เฉลี่ย) ที่ถูกกว่า และการดีลในสไตล์ไทยๆ เช่นการคุยใน LINE หรือการมีส่วนลดต่างๆ เป็นต้น
ฉะนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะถ้าคุณแข่งขันกันด้านราคาเพียงอย่างเดียว สุดท้ายก็สู้ไม่ไหว แต่ถ้าเพิ่มมาตรฐานการบริการ และเข้าใจผู้บริโภคให้มากขึ้น อย่าง การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, การมี Call Center คอยบริการ, การรับส่งรถถึงที่พัก หรือการทำ Exclusive Deal กับ Hostel หรือ โรงแรมต่างๆ ก็จะช่วยสร้างความแตกต่างได้
รถเช่า หรือ Rental Car เป็นคำที่คุณต้องเคย Search เวลาต้องการหารถเช่าแน่ๆ
เพราะสำหรับประเทศไทย ที่ราคาของการเดินที่ไม่แน่นอน รถเช่าจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าอย่างมาก
ไปดูพร้อมๆกัน ว่า ตลาดรถเช่าในไทย ไปถึงไหนกันแล้ว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าภายในปีนี้ ตลาดรถเช่า จะมีมูลค่าถึง 42,500 ล้านบาท เติบโต 9%จากปี 2559 โดยรถเช่าในที่นี้ไม่รวม รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัส และรถจักรยานยนต์
รถเช่า สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ 1.รถเช่าระยะสั้น ระยะเวลาน้อยกว่า 1 ปี โดยจุดประสงค์ของการใช้งานคือ การเช่าเพื่อท่องเที่ยวเป็นหลัก 2.รถเช่าระยะยาว ระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป จุดประสงค์คือ ใช้ทำงาน ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังต่อว่า มีงานอะไรบ้าง
สัดส่วนของรถเช่าระยะสั้นอยู่ที่ 31% รถเช่าระยะราว อยู่ที่ 69%
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับเช่ารถเพื่อท่องเที่ยว 3-5วัน แต่รถที่เช่าเพื่อทำงานนั้น เช่ากันเป็นปี จึงทำให้มูลค่าของรถเช่าระยะยาวจึงสูงกว่ามาก
ความน่าสนใจของตลาดนี้ คือ เป็นตลาดมูลค่าสูง และมีปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสนับสนุน1.ความนิยมในการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
การมีรถเวลาไปเที่ยวที่ไกลๆ นั้น เป็นอะไรที่สบายที่สุดแล้ว (ถ้าคุณทำการบ้านดีพอ) เพราะคำนวณแล้วราคาไม่แพง มีอิสระ และได้เห็นอะไรแปลกๆ มากกว่า
ปัจจุบันจึงเกิดเป็นกระแส Road Trip มากมาย ทั้งในยุโรป สหรัฐฯ หรือ ญี่ปุ่น เทรนด์นี้มีมากขึ้นก็เพราะการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ส่วนการเช่ารถในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะถ้าไปกัน 2-5 คน การเช่ารถก็คุ้ม สะดวก และสนุกมากกว่า แต่ถ้ามีคนเยอะ หรือมีผู้ใหญ่ไปหน่อย การเหมารถตู้ก็ยังได้รับความนิยม
2.การทำการตลาดไปยังที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ
ในจังหวัดท่องเที่ยวดังๆ อย่างเชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต ตัวเลือกการเดินทางมีหลากหลาย แต่ในจังหวัดที่เพิ่งเริ่มทำการท่องเที่ยวนั้น การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว อาจจะไปได้ยาก ทำให้การเช่ารถที่สนามบินเลย เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว
3.บริการออนไลน์ โลจิสติกส์ การเดินทาง
รถเช่าระยะยาว หรือ รถเช่าที่ไว้ทำงานนั้น เป็นตลาดที่ใหญ่ก็เพราะ ผู้เช่าไม่ต้องแบกรับภาระของรถไว้เอง ไม่ว่าจะเป็นค่าเสื่อม ราคา และสำหรับบริษัทที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย รถเช่านั้นสะดวกสบายมากๆ
ธุรกิจเดินทาง เช่น App เรียกรถต่างๆ ที่ผู้ขับไม่ต้องมีรถเป็นของตัวเองก็ทำเงินได้ ซึ่งก็ใช้โมเดลเดียวกับการขับแท็กซี่ และสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ การเพิ่มขึ้นของช้อปปิ้งออนไลน์ หรือบริการออนไลน์ที่ต้องมีการส่งของ ก็ทำให้การเช่ารถตู้ได้รับความนิยมเช่นกัน
โอกาส และความท้าทายปัจจุบัน ตลาดรถเช่า ในไทยนั้นแข่งขันกันสูงมาก มีทั้งแบรนด์ไทย แบรนด์ต่างประเทศซึ่งแบรนด์ต่างประเทศที่เข้ามานั้นก็ชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ง่าย เพราะมีชื่อเสียงจากต่างประเทศอยู่แล้ว พอชาวต่างชาติมาก็คุ้นเคยกับชื่อมากกว่า รวมถึงเว็บไซต์และแอปฯ ที่ต้องยอมรับว่าดีกว่าของไทย
แต่สิ่งที่เป็นข้อได้เปรียบของแบรนด์ไทยก็คือ ค่าบริการ (เฉลี่ย) ที่ถูกกว่า และการดีลในสไตล์ไทยๆ เช่นการคุยใน LINE หรือการมีส่วนลดต่างๆ เป็นต้น
ฉะนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะถ้าคุณแข่งขันกันด้านราคาเพียงอย่างเดียว สุดท้ายก็สู้ไม่ไหว แต่ถ้าเพิ่มมาตรฐานการบริการ และเข้าใจผู้บริโภคให้มากขึ้น อย่าง การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, การมี Call Center คอยบริการ, การรับส่งรถถึงที่พัก หรือการทำ Exclusive Deal กับ Hostel หรือ โรงแรมต่างๆ ก็จะช่วยสร้างความแตกต่างได้